โรค pcos หรือโรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ ประจำเดือนมาไม่ปกติอย่าชะล่าใจ เช็คด่วน!

สา วๆ คนไหนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ มาขาด ๆ หาย ๆ ไม่ใช่เรื่องดี แถมยังส่งผลเสียต่อร่างกายมากมาย อาจเป็นการสร้างฮอร์โมนเพศผิดปกติ นำไปสู่ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือ โรค pcos เป็นโรคที่สามารถพบได้ในเพศหญิงอายุ 25 – 35 ปี หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เสี่ยงเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติและอาจจะส่งผลร้ายแรงถึงการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ในอนาคต เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกท่านไปเช็คด่วน สำหรับอาการของ pcos อาการ สาเหตุ และวิธีการรักษา หากพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

โรค pcos คืออะไร?

โรคpcos (Polycystic ovary syndrome) มีชื่อเรียกภาษาไทยว่า ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ โรค pcos คือ ความผิดปกติของระบบฮอร์โมนในเพศหญิง รวมไปถึงระบบต่อมไร้ท่อ โดยจะมีลักษณะคือพบถุงน้ำภายในรังไข่ของผู้หญิงหลายใบ ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะส่งผลให้มีบุตรยาก แต่ โรค pcos อาการ ที่แสดงของโรคนี้จะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล ในบางรายที่กำลังตั้งครรภ์ อาจมีความรุนแรงจนถึงขั้นเสี่ยงต่อการภาวะครรภ์เป็นพิษ เป็นเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ หรือการคลอดก่อนกำหนด และอาจรุนแรงถึงการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้

สาเหตุของโรค pcos เกิดจากอะไร?

จากการสำรวจในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่า โรคนี้มีสาเหตุเกิดมาจากอะไร แต่ทางแพทย์ได้สรุปสาเหตุจากอาการผิดปกติได้ดังนี้

• มีภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin resistance)

เป็นภาวะที่มีความคล้ายคลึงกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยมีอาการน้ำตาลในเลือดสูง ร่างกายตอบสนองกับอินซูลินช้าลง ส่งผลให้ร่างกายจะผลิตอินซูลินออกมามากขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้รังไข่ถูกกระตุ้น และผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนออกมาเป็นจำนวนมาก สุดท้ายก็จะไปรบกวนการตกไข่และทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ

• ฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง (Hyperandrogenemia)

ฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง pcos คือ เรียกอีกอย่างว่าการมีฮอร์โมนเพศชายสูงเกินปกติ ทำให้ร่างกายมีลักษณะเหมือนกับผู้ชาย เช่น ขนบริเวณร่างกายขึ้นเยอะกว่าปกติ ซึ่งอาการฮอร์โมนแอนโดรเจนสูงนี้เป็นสาเหตุหลักอันดับแรกที่แพทย์พบมากที่สุด

• พันธุกรรม (Heredity)

โรคpcos จัดเป็นโรคทางพันธุกรรมอีกประเภท เนื่องจากการสำรวจพบว่าหากมารดามีภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ ลูกสาวก็จะมีภาวะนี้ด้วย

อาการเบื้องต้นของ โรคpcos มีลักษณะอย่างไร?

• pcos อาการ มีน้ำหนักตัวมากผิดปกติ น้ำหนักขึ้นสูงและรวดเร็ว หรือจัดอยู่ในภาวะอ้วน
• ประจำเดือนมาไม่ปกติ เช่น มาไม่ตรงเดือน ประจำเดือนขาดไปหลายเดือน มาไม่สม่ำเสมอ และประจำเดือนมามากหรือน้อยเกินไป
• ร่างกายมีความผิดสังเกตจาก ฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง หรือฮอร์โมนเพศชายสูงเกินไป pcos อาการ เช่น มีขึ้นดกตามบริเวณต่างๆอย่าง ขนขา ขนหนวด เป็นสิว ผิวมันง่าย หรือผมร่วงง่าย
• มีบุตรยาก สาเหตุมาจากการที่ไข่ไม่ตก มีความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศ ประกอบกับเป็นประจำเดือนไม่ปกติ จึงส่งผลให้มีบุตรยาก

วิธีการตรวจวินิจฉัย โรค pcos โดยทางการแพทย์

หากคุณมีอาการผิดปกติตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น และกำลังสงสัยว่าตนเองเป็น โรคpcos หรือไม่ และจะมีขั้นตอนการวินิจฉัยอย่างไร ไปดูคำตอบกันเลยค่ะ

1. ทำการตรวจเช็คภายใน (Pelvic exam) เพื่อตรวจหาความผิดปกติของถุงน้ำในรังไข่อย่างละเอียด
2. ตรวจเลือด เป็นวิธีการที่ใช้วัดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด รวมทั้งวัดระดับของฮอร์โมนเพศว่ามีเกณฑ์มีฮอร์โมนแอนโดรเจนสูงหรือไม่
3. อัลตราซาวน์ (Ultrasound) เป็นวิธีการตรวจสอบโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อแสดงภาพของอวัยวะภายในว่ามีความผิดปกติหรือไม่

วิธีรักษาโรคpcos หรือภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ ด้วยตนเอง

หากคุณพบว่าตนเองเสี่ยงที่จะมีอาการ หรือตรวจพบภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ สามารถ รักษา pcos ด้วยตัวเอง เบื้องต้น ดังนี้

• นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง รักษา pcos ด้วยตัวเอง เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุล ไม่เพลียง่าย อีกทั้งยังช่วยควบคุมฮอร์โมนความหิว ฮอร์โมนความเครียด ที่เป็นตัวสำคัญที่จะส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะเครียดและอยากน้ำตาลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยแนะนำให้ออกกำลังกายวันละประมาณ 30-60 นาที อย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ ทำให้ช่วยลดฮอร์โมนเพศชายได้ดี อีกทั้งยังลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย
• เข้าปรึกษาแพทย์และรับการรักษาอย่างถูกต้อง โดยแพทย์จะรักษาโดยวิธีการใช้ฮอร์โมนทดแทน เพื่อเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงให้ร่างกายสมดุล ช่วยให้รังไข่แข็งแรง เกิดการตกไข่ปกติ

อาหารที่ผู้ป่วย โรคpcos ควรรับประทานและไม่ควรรับประทาน

โรค pcos ห้าม กิน อะไรบ้าง เรื่องอาหารการกินก็มีส่วนสำคัญ ที่จะช่วยรักษาและป้องกันำม่ให้อาการภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบทวีความรุนแรง ซึ่งอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่

• อาหารที่มีน้ำตาลสูง/ของหวาน โดยไม่ควรรับประทานน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา/วัน
• ข้าวหรือแป้งที่ผ่านการขัดสี เช่น พิซซ่า ขนมปังขาว ข้าวขาว ขนมจีน หรือเส้นก๋วยเตี๋ยว เพราะจะส่งผลให้ร่างกายเกิดการอักเสบ และฮอร์โมนเพศชายจะแสดงอาการมากยิ่งขึ้น แถมยังเป็นการเพิ่มน้ำหนักแบบไม่รู้ตัว
• งดอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ติดมัน ของทอด หรืออาหารฟาสต์ฟู้ด เนื่องจากไขมันเป็นสาเหตุของการอักเสบในร่างกายสูง

ส่วนอาหารที่ผู้ป่วย โรคpcos ควรรับประทาน ได้แก่ ผัก ผลไม้ ที่อุดมไปด้วย Vitamin B6, B12, C, Fish Oil ยกตัวอย่างเช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ บร็อคโคลี หรืออะโวคาโด้ เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบภายในร่างกาย และลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี